ปลูกมะเขือเทศ ไม่ยากอย่างที่คิด

่อนจะเรียนรู้วิธีปลูกมะเขือเทศ มาลองทำความรู้จักกับประโยชน์ของผักชนิดนี้กันเสียก่อน หากพูดถึงพืชกินผลยอดนิยมในหมู่คนไทย ชื่อของมะเขือเทศย่อมติดอันดับแน่นอน ไม่เพียงแค่สีสันสดใสน่ารับประทานเท่านั้น แต่มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ทั้งยังมีวิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง ดีต่อระบบย่อยอาหาร อีกทั้งช่วยบำรุงลำไส้ ไต เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงอีกด้วย ไม่เพียงแค่การรับประทานเท่านั้น มะเขือเทศยังสามารถใช้ในด้านความงามได้ เพียงนำน้ำมะเขือเทศสดมาทาบนผิวหน้าก่อนนอน จะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดความหมองคล้ำที่เกิดจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มะเขือเทศ: ผักกินผลที่มีมากกว่าความอร่อย มะเขือเทศสำหรับรับประทานผลสดมีหลากหลายสายพันธุ์ ตั้งแต่มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศผลใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ ไปจนถึงมะเขือเทศราชินี สายพันธุ์ต่าง ๆ เหล่านี้สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ต้นมีอายุประมาณ 70-90 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพันธุ์ที่ปลูก โดยระยะเวลาตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดจะอยู่ในช่วง 4-5 เดือน ขั้นตอนและเคล็ดลับการปลูกมะเขือเทศ การปลูกมะเขือเทศไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้คล้ายกับการปลูกผักสวนครัวทั่วไป มะเขือเทศเป็นพืชที่ชอบแสงแดดเต็มวัน ดินปลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีการระบายน้ำดีและมีอินทรียวัตถุสูง หากเริ่มต้นด้วยดินที่อุดมสมบูรณ์ โอกาสประสบความสำเร็จย่อมสูงขึ้น ขั้นตอน 1: ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เริ่มต้นจากการนำเมล็ดจากผลมะเขือเทศสุกมาล้างเมือกออกให้สะอาด ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม ก่อนหว่านลงในกระบะเพาะ ประมาณ 10 วัน […]

การปลูกขนุนมีความสมบูรณ์

ขนุน หรือที่รู้จักในภาษาเหนือว่า “บ่าหนุน” เป็นไม้ยืนต้นที่พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยในอดีตได้นำรากและแก่นขนุนมาต้มใช้น้ำย้อมสบงและจีวรพระสงฆ์ เรียกอีกชื่อว่า “หมากลาง” ประโยชน์ของขนุนมีมากมาย ได้แก่ – ราก: ใช้ย้อมผ้าสบงจีวรพระสงฆ์ ด้วยการต้มเคี่ยวให้น้ำออกมาเป็นสีเหลืองเรียกว่า “สีย้อมฝาด” (กาสาวพัตร์) ใช้ยารักษาท้องเสีย แก้ไข้ บำรุงเลือด และขี้เถ้าจากรากขนุนเป็นยารักษาแผล – ลำต้น: นิยมใช้สร้างสิ่งปลูกสร้างเพราะทนปลวกและรา แก่นไม้ใช้เป็นสมุนไพรบำรุงกำลัง บำรุงเลือด และแก้ลมชัก – ใบ: ใบอ่อนใช้รับประทานกับส้มตำ แกงโฮะ หรือจิ้มน้ำพริก ใบแก่ต้มน้ำให้สัตว์กินเพื่อช่วยขับน้ำนม ใช้เผาเป็นขี้เถ้าเพื่อรักษาแผลเรื้อรังในสัตว์เลี้ยงและเป็นอาหารสัตว์ – ผล: ผลดิบใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก ผลโตขึ้นนำมาทำแกง ตำ หรือยำ เรียกว่าแก๊งบ่าหนุน ยำบ่าหนุน มีสรรพคุณเป็นยาฝาดสมานและแก้ท้องเสีย ผลสุกเป็นผลไม้ เมล็ดใช้ต้มหรือเผารับประทานเป็นอาหารว่าง ความเชื่อเกี่ยวกับขนุนในวัฒนธรรมล้านนา คือการปลูกขนุนไว้ทางทิศตะวันตกของบ้านเชื่อว่าจะนำโชคดี มีคนช่วยเหลือเกื้อหนุน ถ้านำไม้ขนุนมาแกะเป็นพระพุทธรูปเพื่อบูชา เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมั่งมีศรีสุข นอกจากนี้ยังมีประเพณีทำแกงขนุนในงานสำคัญเช่นงานแต่งงาน เพื่อเสริมให้คู่บ่าวสาวมีชีวิตครองร่วมกันอย่างมั่นคง ความหมายจากยางเหนียวของขนุนยังสื่อถึงการอยู่ร่วมกันอย่างเหนียวแน่นตลอดไป การเตรียมเมล็ดพันธุ์เกี่ยวข้องกับการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรง เจริญเติบโตดี มีผลที่น่าดึงดูด […]

วิธีการปลูกมะเขือเปราะ

การปลูกมะเขือเปราะได้รับความนิยมด้วยวิธีที่ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม หากสามารถหาต้นมะเขือพวงหรือต้นไม้ในตระกูลมะเขือที่มีอายุยืนมาใช้ในการเสียบยอดหรือทาบกิ่งได้ จะช่วยเพิ่มคุณค่าและความหลากหลาย โดยบทความนี้มีเป้าหมายเพื่อแนะนำขั้นตอนการเสียบยอดและการทาบกิ่ง เพื่อให้คุณสามารถปลูกมะเขือหลากชนิดในต้นเดียวกัน น่าสนใจใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นติดตามเคล็ดลับดีๆ ในการปลูกกันได้เลย  วิธีปลูกมะเขือเปราะจากเมล็ด เริ่มจากการเลือกเมล็ดที่คุณภาพดี จากนั้นนำไปแช่ในน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงประมาณ 20 นาที เตรียมภาชนะเพาะเช่นถาดเพาะ แล้วผสมดินกับปุ๋ยคอกลงในภาชนะ หากพ่นหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงบนดินอีกครั้งจะเพิ่มคุณค่าให้ดินพร้อมปลูก ใช้นิ้วหรือไม้เจาะดินให้เป็นหลุมลึก 3-5 ซม. ใส่เมล็ดลงไป กลบดินบางๆ และวางถาดเพาะในที่ร่ม เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก ให้รดน้ำในช่วงเช้าวันละครั้ง และเมื่อต้นอ่อนมีใบคู่สามารถนำออกแดดครึ่งวันเพื่อเร่งการเจริญเติบโต หลัง 20-30 วัน คุณจะสามารถย้ายกล้าลงปลูกในกระถางหรือแปลงได้ โดยดูแลต้นด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงและปุ๋ยคอก รดน้ำวันละครั้ง แต่ระวังอย่าให้ดินแห้งจนเกินไป เมื่อต้นมะเขือเริ่มแตกกิ่งใหม่ ให้เด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งเพิ่มและสร้างทรงพุ่มสวยงาม หากต้นเริ่มออกดอกควรรักษาโครงสร้างให้สมบูรณ์ ด้วยการกำจัดผลที่มีปัญหา เช่น ผลที่ถูกเจาะโดยแมลงหรือหนอน อาจพ่นน้ำส้มควันไม้เพื่อแก้ไขปัญหาแมลงรบกวน การใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง สามารถทำหัวเชื้อจุลินทรีย์นี้ใช้เองได้ไม่ยุ่งยาก เพราะนอกจากช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดินแล้ว ยังปรับปรุงอัตราการดูดซึมของพืชได้ดี และไม่มีสารอันตราย จึงเหมาะกับใช้บ่อยเพื่อดูแลต้นมะเขือของคุณ เทคนิคเพิ่มอายุการเก็บเกี่ยวของมะเขือ เนื่องจากมะเขือเปราะมีอายุสั้นเพียงปีเศษ เกษตรกรจึงพยายามหาวิธีลดการปลูกซ้ำหลายรอบ วิธีหนึ่งคือการเพิ่มปริมาณลูกมะเขือด้วยเทคนิคเด็ดยอด รวมถึงการเสียบยอดมะเขือพันธุ์ต่างๆ บนต้นตอมะเขืออายุยืน […]

การปลูกมะเขือย าว

ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่อยู่ในช่วง 5.5-6.5 โดยเฉลี่ยแล้ว พืชผลสามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานถึงประมาณ 2 ปี แต่ปัจจุบันพืชชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อได้ยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศในพื้นที่เพาะปลูกไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตลดลงหรือคุณภาพไม่ดี มีลักษณะแคระแกร็นหรือผิดรูป และในบางครั้งยังเกิดภาวะขาดตลาดอีกด้วย สำหรับผู้ที่ปลูกไว้บริเวณบ้าน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะสามารถใช้บริโภคเองได้ และการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ทั้งในกระถางหรือปลูกลงแปลงดินก็ได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทางสมุนไพรที่หลากหลาย เช่น ลำต้นและรากช่วยแก้บิดเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด หรือรักษาแผลอักเสบ ใบนำไปต้มดื่มแก้ปัสสาวะขั ด และรักษารคหนองใน ใบสดก็ตำพอกแผ ลหนองเพื่อบรรเทาอาการ ส่วนผลแห้งสามารถทำเป็นยาเม็ดรักษาอาการปวดหรือตกเลือดในลำไส้ ขณะที่ขั้วผลแห้งสามารถเผาเป็นเถ้าบดละเอียดและใช้เป็นยาได้ การปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็วและมีคุณภาพ ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมดินอย่างเหมาะสม เพราะพืชตระกูลมะเขือมีความต้องการธาตุอาหารจากดินในปริมาณมาก โดยเฉพาะธาตุอาหารหลัก หากเป็นการปลูกลงแปลง ควรเริ่มจากปรับหน้าดินให้เรียบ ผสมดินกับปุ๋ยคอกในอัตรา 1:1 และพูนดินหรือขุดร่องลึกประมาณ 20 นิ้ว ตากดินให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนำมาผสมกับปุ๋ยเพื่อกลบลงในร่อง ส่วนปลูกในกระถาง ควรรองก้นกระถางด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักครึ่งกระถาง แล้วกลบด้วยดินผสมปุ๋ยหมักอีกชั้น สำหรับการเพาะกล้า สามารถหว่านเมล็ดลงแปลงโดยตรง หรือถ้าปลูกในกระถาง ให้หยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อกระถางแล้วกลบด้วยดินผสมบาง ๆ […]

การปลูกต้นว่านพญานาคราช

เริ่มว่านพญานาคราชเป็นพืชที่เรามักจะพบเห็นทั่วไปในยีสต์ใกล้ที่แอตแลนติกและในส่วนของเอเชียนั้นและจุดศูนย์กลางของที่นั่นและจากนั้นจะมีอยู่หลายคุณพื้นที่ของต้นว่านพญานาคราชมี ประสิทธิภาพในการบรรเทาจากสัต ว์มี (งูเห่าโดยระบบควบคุมมาระบบควบคุมสีขาวหรือน้ำซาวข้าวแล้วใช้พอกแผลเพื่อการบรรเทาความปวด คุณสมบัติเป็นยาเย็นแต่ไม่ได้ดูดโดยตรง สำหรับวิธีการขยายพันธุ์ นิยมใช้การปักชำบ่อยครั้งที่ต้นมีตาดอกรอบ ๆ เหมือนเกิดหน่อใหม่ได้ส่วนที่มีรสชาติในสภาพแสงน้อยอาจแตกกิ่งและกลายเป็นต้นใหม่ได้ปกติปกติวิธีขยายพันธุ์และอาจลดลงได้เป็น บทความยาวประมาณ 2-4 อย่าลืมใช้ขี้เถ้าทาปิดแผลเพื่อกำจัดยางก่อนปลูกหรืออ่านในที่ร่มก็จะแตกหน่อง่าย สำหรับสมุนไพรเลือกดินที่เพื่อให้รากแตกเร็วขึ้นและแห้งช้าดินผสมสำหรับพืชตระกูลถั่วหรือดินใบก้ามปูคาสิโนกาบมะพร้าวสับจะเหมาะสำหรับการเลือกใช้แบบฉลุที่มีรูรอบๆน้ำ และอากาศผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพการดูแลอาจทำให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเล็กน้อยบนผิวดินแต่ระวังไม่ให้ปุ๋ยละลายช้าใส่รอบโคนต้นช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเปลี่ยนดินทุก 3-4 เดือนเนื่องจากดินที่แน่น เกินไปจะทำให้โคนรากแห้งและอ่อนแอเพียงแค่นั้น ต้นว่านพญานาคราชเป็นพืชที่ต่อเนื่องกันทั่วไปในหมู่เกาะยักษ์ใกล้ยักษ์แอตแลนติกและในส่วนของเอเชียและศูนย์กลางของระบบอีกครั้งในช่วงแรกๆ… วิธีอื่น ๆ ที่เป็นพืชทนได้ก็คือการแตกหน่อจากทุก ๆ คุณสมบัติ การขยายพันธุ์อาจตัดเป็นภาพวาดยาวประมาณ 5 ซม. ทายางบริเวณแผลด้วยขี้เถ้าเป็นเวลานานเพื่อให้ยางนั้นสามารถปลูกหรือพักได้ที่ร่มก็สามารถแตกหน่อใหม่ได้ สำหรับการดูแลให้ต้นพญานาคราชเติบโตอย่างงอกงามเป็นจำนวนมากเป็นไม้อวบน้ำสามารถควบคุมกระบองเพชร ดูแลจึงแนะนำให้โดยแนะนำให้ปลูกในถังเพื่อการจัดการที่ง่ายใช้วัสดุปลูกที่เจาะดีเพราะน้ำจะทำให้ต้นเน่าได้ ในช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิสูงการได้รับแสงแดดน้อยเป็นเวลานานเกินไปก็ทำให้เกิดการเน่าเสียจากองค์ประกอบของการเน่าเสีย เริ่มว่านพญานาคราชมีปัญหาและแมงศัรูพืชน้อยยกเว้นหนูและสัตว์ฟันแทะที่อาจส่งผลต่อเหตุผลในฤดูฝนควรวางหม้อสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรหรือมากกว่านั้นอีกครั้งที่เห็นได้ชัด และควรเปลี่ยนดินควรใช้หม้อ ที่ระบายได้ดีเพื่อให้สามารถเริ่มต้นได้ตามปกติ

การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง

Hippocrates, แพทย์จากกรีกโบราณ, เคยใช้หน่อไม้ฝรั่งเพื่อบรรเทาอาการท้องร่วงและปวดท่อปัสสาวะ เนื้อแท้ของพืชนี้มีสารแอสพาราจีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ ชาวโรมันนิยมรับประทานหน่อไม้ฝรั่งเป็นอาหารหรือเป็นเครื่องเคียงกับปลา ในยุคกลางหน่อไม้ฝรั่งถูกลืมไปบ้าง แต่ชาวอาหรับยังคงปลูกฝัง จากนั้นกองทัพของจักรพรรดิก็นำมันกลับไปยังยุโรป ในศตวรรษที่ 16 หน่อไม้ฝรั่งเริ่มเสิร์ฟในราชสำนักยุโรป โดยในศตวรรษที่ 17 ถูกปลูกในฝรั่งเศสสำหรับหลุยส์ที่สิบสี่ ที่เห็นได้ชัดว่าชื่นชอบมันมาก ช่วงนั้นมีขนาดเพียงเท่าขนหงส์และปลูกเพื่อขุนนาง ต่อมาในศตวรรษที่ 18 หน่อไม้ฝรั่งจึงเริ่มปรากฏในตลาดท้องถิ่นและนำไปใช้ในการทำอาหารหลากหลาย ในปัจจุบันหน่อไม้ฝรั่งสีเขียวพบได้ทั่วไปในอเมริกาและจีน ขณะที่พันธุ์สีขาวส่วนใหญ่ปลูกในยุโรปและจีน แต่เดิมเช่นผักอื่นๆ หน่อไม้ฝรั่งถูกค้นพบในป่า หน่อไม้ฝรั่งป่ามีความหนากว่าแบบปลูกในเชิงพาณิชย์ที่เราพบตามร้านค้า ผ่านเทคนิคการคัดเลือกพันธุ์และการเพาะปลูก วันนี้เรามีลำต้นที่หนาขึ้นและเนื้อสัมผัสที่อร่อยยิ่งขึ้น ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ทั้งแบบหน่อขาวและหน่อเขียว ควรเป็นดินที่มีเนื้อดินร่วนถึงเหนียวร่วน และจำเป็นต้องระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป ดินที่ไม่ระบายน้ำหรืออากาศดี มีน้ำขัง หรือมีชั้นดินดานไม่เหมาะสม นักพืชจะเติบโตช้าและให้ผลผลิตต่ำ สำหรับหน่อไม้ฝรั่งสีขาว ในการเลือกเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า ควรเลือกเมล็ดที่งอกได้ดีและตรงตามพันธุ์น้ำหนัก 1 ปอนด์ มีเมล็ดประมาณ 13,000-23,000 เมล็ด ซึ่งเพียงพอสำหรับเพาะต้นกล้าสำหรับพื้นที่ปลูก 2-4 ไร่ ใช้พื้นที่เพาะประมาณ 500-600 ตารางเมตร การเตรียมแปลงปลูก ทำให้แปลงเปิดโล่งไม่มีร่มเงา ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ขุดหน้าดินและหมักด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักครบถ้วน แล้วกำจัดวัชพืชออก […]

วิธีปลูกผักกาดขาว

วิธีการปลูกผักกาดขาวให้ได้ผลผลิตดี เริ่มจากการเตรียมดินเพื่อให้ได้ผักกาดขาวที่มีคุณภาพ ควรใช้น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำ (อัตราส่วน 1:100) ฉีดพ่นในดินที่ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ผสมให้เข้ากันและตากดินไว้ 1 วัน หากใช้น้ำส้มควันไม้เกินอัตรา ให้ตากดินไว้นานขึ้นหนึ่งเท่าตัว ในแปลงเพาะกล้าหรือแปลงนา ควรไถดินและตากไว้ 5-7 วัน พร้อมฉีดพ่นด้วยน้ำส้มควันไม้เพื่อเชื้อรค หลังจากนั้นคลุกเคล้าด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักจนเนื้อดินร่วนซุย โดยเฉพาะผิวหน้าดิน เพื่อป้องกันเมล็ดผักที่มีขนาดเล็กไม่ให้ตกในดินลึกเกินไป ดินที่เหมาะสมควรมีแร่ธาตุสูง ร่วนซุย ระบายน้ำดี หากระบายน้ำเร็วและแห้งเกิน ใช้วัสดุคลุมหน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้น สำหรับดินเปรี้ยวหรือเค็ม ใช้ปูนขาวช่วยปรับสภาพ ส่วนดินทรายควรเพิ่มปุ๋ยคอกหมัก ไม่ควรใช้มูลสัตว์สดเพราะอาจทำให้เกิดรคในต้นผักได้ วิธีการปลูกหลัก ๆ มีสองแบบคือ 1. การปลูกแบบหว่านโดยตรง: เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง ใช้เมล็ดพันธุ์ราคาไม่แพง เทคนิคคือผสมเมล็ดกับทรายเพื่อกระจายตัวดี หว่านทับด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพและคลุมฟาง คอยรดน้ำจนกระทั่งต้นงอก เมื่อมีใบจริง 1-2 ใบ ให้ถอนแยกห่างกัน 30-50 เซนติเมตร 2. การปลูกแบบหยอดลงหลุม เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดหรือปลูกในกระถาง หยอดเมล็ด 3-5 เมล็ดต่อหลุม กลบดินบาง ๆ แล้วถอนแยกเมื่อมีใบจริง 2 ใบเหลือหลุมละ […]

การปลูกเห็ดนางฟ้า

การเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นกระบวนการสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นได้ตามความพร้อมของผู้เพาะ โดยมีขั้นตอนดังนี้: การเตรียมอุปกรณ์และการลงทุนเริ่มต้น ในช่วงเริ่มแรกจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์สำหรับการเพาะ เช่น หม้อนึ่งความดัน ขวดต้ม วัสดุเพาะ ขี้เลื่อย และอื่น ๆ การลงทุนจะขึ้นอยู่กับขนาดการผลิต หากมีงบประมาณจำกัด สามารถปรับใช้โรงเรือนเดิมที่มีอยู่ได้ หรือเลือกลงทุนเฉพาะบางขั้นตอน เช่น การซื้อก้อนเชื้อสำเร็จรูปมาทำต่อ เพื่อช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อน เริ่มต้นด้วยการผลิตเชื้อวุ้น และเชื้อข้าวฟ่างเพื่อเพาะเห็ด ในขั้นตอนนี้ สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ซื้อเชื้อสำเร็จรูปมาใช้ก่อนเนื่องจากการผลิตเองต้องใช้อุปกรณ์และความชำนาญ ความไม่ชำนาญอาจทำให้ต้นทุนสูงเกินควร เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นในระยะ 1-2 ปี สามารถเริ่มทำเชื้อเองได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การทำเชื้อวุ้นนั้นใช้อุปกรณ์ เช่น วุ้น PDA และเมล็ดข้าวฟ่าง ซึ่งให้ผลผลิตคุณภาพสูงกว่าขี้เลื่อยธรรมดา อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการทำข้าวฟ่างก็สูงกว่าเช่นกัน การทำหัวเชื้อเห็ดนางฟ้า วัสดุสำหรับทำหัวเชื้อ เช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา (หรือขี้เลื่อยไม้ชนิดอื่น) ผสมกับรำละเอียด แป้งข้าวเจ้า/น้ำตาลทราย ดีเกลือ และปูนขาว ให้ได้ความชื้นอยู่ระหว่าง 60-70% จากนั้นหมักไว้ประมาณ 7-10 วัน วัสดุที่ใช้ในการถ่ายเชื้อจะต้องสะอาดและผ่านการเชื้อทุกครั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน หลังจากเตรียมวัสดุเสร็จ ให้บรรจุลงในถุงเพาะเห็ด ขนาดแต่ละก้อนประมาณ 0.8-1 […]

การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูง

วิธีการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงมีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนต่ำและขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน สามารถทำเองได้และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เทคนิคพื้นฐานในวิธีนี้คือการจัดวางกองฟางให้อยู่ในแนวเดียวกับแสงอาทิตย์ แสงแดดจะเข้าถึงทุกมุมของกองฟาง ซึ่งต่างจากวิธีการกองเตี้ยที่ต้องใช้โรงเรือนและมีค่าใช้จ่ายในเรื่องพลาสติกคลุมกอง ข้อดีของกองฟางที่สูงคือช่วยลดต้นทุน แต่จำเป็นต้องพิจารณาแนวทางแสงก่อนทำการวาง หากกองฟางสูงกว่า 1 เมตร อาจต้องมีไม้หลักค้ำยันเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของฟางเมื่อมีการรดน้ำ ขั้นตอนการเพาะเริ่มด้วยการรดน้ำที่ดินก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ดินดูดความชื้นจากกองฟาง ต่อมาคือการปูฟางชั้นแรกด้วยฟางที่แช่น้ำแล้วอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ความหนาควรอยู่ระหว่าง 15-20 ซม. ตามด้วยการโรยเชื้อเห็ดรอบขอบกอง สำหรับหน้าร้อน ควรวางฟางไม่เกิน 5 ชั้น เพื่อป้องกันความร้อนเกิน ส่วนหน้าหนาว ควรวางสูงประมาณ 7 ชั้น หรือใกล้เคียง 1 เมตร วางให้ชั้นแรกกว้างก่อนและค่อย ๆ แคบลง เพื่อสร้างลักษณะเนินที่แข็งแรง ในเรื่องการดูแลรักษา ใช้พลาสติกคลุมในกรณีที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ พลาสติกทึบได้ดอกเห็ดสีขาวสวย ส่วนพลาสติกใสได้ดอกที่หนักกว่า หากอุณหภูมิทั่วไปไม่หนาวเกินไป ก็สามารถใช้ฟางคลุมรอบกองแทนได้ การตรวจสอบความชื้นทำทุก 3-4 วัน หากกองแห้งให้เปิดพลาสติกและรดน้ำทั่วถึง มีเทคนิคเสริมด้วยการใช้ขี้เถ้าเผาฟางโรยผิวกองฟางเพื่อปรับค่า pH ซึ่งช่วยให้ดอกเห็ดเติบโตดีขึ้น ไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้ความชื้นไม่สมดุล เทคนิคการใช้พลาสติกสำหรับคลุมกองฟางมีผลต่อสีและน้ำหนักของดอกเห็ด พลาสติกทึบช่วยให้ได้ดอกเห็ดสีขาวสวยและน้ำหนักเบา ส่วนพลาสติกใสทำให้ดอกเห็ดมีสีคล้ำและน้ำหนักดี เมื่อคลุมกองเห็ดฟาง […]

การปลูกหัวผักกาดแดง

หัวผักกาดแดงเป็นพืชเมืองหนาวในตระกูล Brassicaceae หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mustard family มีต้นกำเนิดจากคำในภาษากรีกที่แปลว่าการเติบโตอย่างรวดเร็ว เดิมทีปลูกอย่างแพร่หลายที่อียิปต์ แล้วจึงขยายไปยังประเทศจีนและญี่ปุ่น หัวผักกาดแดงมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี สามารถปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว ที่ไทยนิยมปลูกทางภาคเหนือ ส่วนในบางพื้นที่ของภาคกลาง เช่น ปากช่อง ก็สามารถปลูกได้ผลผลิตดีเช่นกัน สามารถบริโภคส่วนรากหรือหัวที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 เซนติเมตร รสชาติดีและใช้ทำอาหารได้หลากหลาย หัวผักกาดแดงในไทยมี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ทรงกลม (Globe), ทรงรูปไข่ (Oval) และทรงกลมยาว (Oblong) ส่วนใหญ่สายพันธุ์ที่ปลูกคือ Cherry belle radish หรือพันธุ์ทรงกลมที่มีหัวสีแดง ใช้เวลาเก็บเกี่ยวประมาณ 40 วัน ความสำเร็จในการเพาะปลูกขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสภาพอากาศและดินที่เหมาะสม สภาพอากาศ: เป็นพืชเขตหนาว อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10-18 องศาเซลเซียส หากร้อนเกินนี้และความชื้นต่ำ หัวผักกาดแดงอาจเจริญเติบโตไม่เต็มที่ สภาพดิน: เนื่องจากพืชนี้มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น ควรใช้ดินที่ร่วนซุย มีอินทรีย์วัตถุและแร่ธาตุสูง ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ประมาณ 6.0-6.8 […]

TOP