จะเรียนรู้วิธีปลูกมะเขือเทศ มาลองทำความรู้จักกับประโยชน์ของผักชนิดนี้กันเสียก่อน หากพูดถึงพืชกินผลยอดนิยมในหมู่คนไทย ชื่อของมะเขือเทศย่อมติดอันดับแน่นอน ไม่เพียงแค่สีสันสดใสน่ารับประทานเท่านั้น แต่มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความ ทั้งยังมีวิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง ดีต่อระบบย่อยอาหาร อีกทั้งช่วยบำรุงลำไส้ ไต เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงอีกด้วย
ไม่เพียงแค่การรับประทานเท่านั้น มะเขือเทศยังสามารถใช้ในด้านความงามได้ เพียงนำน้ำมะเขือเทศสดมาทาบนผิวหน้าก่อนนอน จะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดความหมองคล้ำที่เกิดจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มะเขือเทศ: ผักกินผลที่มีมากกว่าความอร่อย
มะเขือเทศสำหรับรับประทานผลสดมีหลากหลายสายพันธุ์ ตั้งแต่มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศผลใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ ไปจนถึงมะเขือเทศราชินี สายพันธุ์ต่าง ๆ เหล่านี้สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ต้นมีอายุประมาณ 70-90 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพันธุ์ที่ปลูก โดยระยะเวลาตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดจะอยู่ในช่วง 4-5 เดือน
ขั้นตอนและเคล็ดลับการปลูกมะเขือเทศ
การปลูกมะเขือเทศไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้คล้ายกับการปลูกผักสวนครัวทั่วไป มะเขือเทศเป็นพืชที่ชอบแสงแดดเต็มวัน ดินปลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีการระบายน้ำดีและมีอินทรียวัตถุสูง หากเริ่มต้นด้วยดินที่อุดมสมบูรณ์ โอกาสประสบความสำเร็จย่อมสูงขึ้น
ขั้นตอน 1: ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
เริ่มต้นจากการนำเมล็ดจากผลมะเขือเทศสุกมาล้างเมือกออกให้สะอาด ผึ่งให้แห้งในที่ร่ม ก่อนหว่านลงในกระบะเพาะ ประมาณ 10 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกและแตกใบจริง หรือถ้าต้องการความสะดวก สามารถใช้เมล็ดพันธุ์สำเร็จรูปที่จัดจำหน่ายแบบซองได้
หากยังไม่มั่นใจว่าการเพาะเมล็ดจะสำเร็จ ให้ลองใช้วิธีเพาะในกล่องพลาสติก โดยโรยเมล็ดบนกระดาษทิชชู รดน้ำให้ชุ่ม ปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จะเริ่มเห็นเมล็ดงอกพร้อมใบเลี้ยงเล็ก ๆ จากนั้นสามารถย้ายลงวัสดุปลูกต่อได้
ขั้นตอน 2: ย้ายต้นกล้าและดูแลต้น
หลังจากเมล็ดงอกจนต้นกล้ามีอายุได้ 15 วันหรือเริ่มมีใบจริง ควรย้ายลงปลูกในกระถางหรือถุงปลูก จากนั้นเมื่อต้นกล้าอายุครบ 30 วัน ให้ย้ายลงปลูกในแปลงหรือภาชนะที่เตรียมไว้ โดยระยะห่างระหว่างต้นและแถวควรอยู่ที่ 50 x 70 เซนติเมตร สำหรับมะเขือเทศแบบไม่ใช้ค้าง ส่วนพันธุ์ที่ต้องใช้ค้างให้เว้นระยะห่าง 30 x 70 เซนติเมตร และทำค้างให้ต้นเลื้อย เช่น ใช้ไม้ปักผูกเป็นกระโจมหรือเชือกรัดต้นกับราวลวด
เคล็ดลับสำคัญในการดูแลมะเขือเทศ
– การให้น้ำ: ควรให้น้ำสม่ำเสมอไปจนถึงช่วงผลเริ่มเปลี่ยน