Hippocrates, แพทย์จากกรีกโบราณ, เคยใช้หน่อไม้ฝรั่งเพื่อบรรเทาอาการท้องร่วงและปวดท่อปัสสาวะ เนื้อแท้ของพืชนี้มีสารแอสพาราจีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ ชาวโรมันนิยมรับประทานหน่อไม้ฝรั่งเป็นอาหารหรือเป็นเครื่องเคียงกับปลา ในยุคกลางหน่อไม้ฝรั่งถูกลืมไปบ้าง แต่ชาวอาหรับยังคงปลูกฝัง จากนั้นกองทัพของจักรพรรดิก็นำมันกลับไปยังยุโรป ในศตวรรษที่ 16 หน่อไม้ฝรั่งเริ่มเสิร์ฟในราชสำนักยุโรป โดยในศตวรรษที่ 17 ถูกปลูกในฝรั่งเศสสำหรับหลุยส์ที่สิบสี่ ที่เห็นได้ชัดว่าชื่นชอบมันมาก ช่วงนั้นมีขนาดเพียงเท่าขนหงส์และปลูกเพื่อขุนนาง ต่อมาในศตวรรษที่ 18 หน่อไม้ฝรั่งจึงเริ่มปรากฏในตลาดท้องถิ่นและนำไปใช้ในการทำอาหารหลากหลาย ในปัจจุบันหน่อไม้ฝรั่งสีเขียวพบได้ทั่วไปในอเมริกาและจีน ขณะที่พันธุ์สีขาวส่วนใหญ่ปลูกในยุโรปและจีน แต่เดิมเช่นผักอื่นๆ หน่อไม้ฝรั่งถูกค้นพบในป่า หน่อไม้ฝรั่งป่ามีความหนากว่าแบบปลูกในเชิงพาณิชย์ที่เราพบตามร้านค้า ผ่านเทคนิคการคัดเลือกพันธุ์และการเพาะปลูก วันนี้เรามีลำต้นที่หนาขึ้นและเนื้อสัมผัสที่อร่อยยิ่งขึ้น ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ทั้งแบบหน่อขาวและหน่อเขียว ควรเป็นดินที่มีเนื้อดินร่วนถึงเหนียวร่วน และจำเป็นต้องระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป ดินที่ไม่ระบายน้ำหรืออากาศดี มีน้ำขัง หรือมีชั้นดินดานไม่เหมาะสม นักพืชจะเติบโตช้าและให้ผลผลิตต่ำ สำหรับหน่อไม้ฝรั่งสีขาว ในการเลือกเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า ควรเลือกเมล็ดที่งอกได้ดีและตรงตามพันธุ์น้ำหนัก 1 ปอนด์ มีเมล็ดประมาณ 13,000-23,000 เมล็ด ซึ่งเพียงพอสำหรับเพาะต้นกล้าสำหรับพื้นที่ปลูก 2-4 ไร่ ใช้พื้นที่เพาะประมาณ 500-600 ตารางเมตร การเตรียมแปลงปลูก ทำให้แปลงเปิดโล่งไม่มีร่มเงา ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ขุดหน้าดินและหมักด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักครบถ้วน แล้วกำจัดวัชพืชออก […]