การปลูกทุเรียนให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการดูแลและการจัดการที่เหมาะสมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งต้นเลือกพื้นที่ปลูก ควรมองหาพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีความเป็นกรด-ด่างในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของทุเรียน การเลือกพันธุ์ที่เข้ากับสภาพภูมิอากาศและดินในพื้นที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน หลังจากปลูกแล้ว ต้องมีการดูแลเรื่องการให้น้ำอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงแห้งแล้ง และยังต้องคอยสังเกตศัตรูพืชและรคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมปัญหาไม่ให้ลุกลาม นอกจากนี้ การใส่ปุ๋ยด้วยสูตรที่เหมาะสมในแต่ละช่วงการเติบโตของต้นจะช่วยส่งเสริมให้ทุเรียนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ หากผู้ปลูกปฏิบัติอย่างถูกต้องและใส่ใจในรายละเอียดทุกส่วน โอกาสประสบความสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากหายหน้าหายตาไปสักพัก เพราะพยายามหาเวลามาเข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับระบบน้ำในแปลงเกษตรโดยใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ เพื่อเสริมสร้างคลังความรู้พื้นฐานของตัวผมเอง การอบรมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายสถานที่ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของสวนทุเรียนทั้งนั้น นับว่าโชคดีที่ได้พบเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นบ้าง เจ้าของสวนที่มาเข้าร่วมส่วนใหญ่สามารถออกแบบระบบน้ำและจัดการดูแลแปลงของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการได้เห็นมุมมองและประสบการณ์ที่เขาแชร์ก็ช่วยเปิดโลกให้ผมไม่น้อย ส่วนตัวผมยังเพิ่งเริ่มต้นปลูกทุเรียน จึงลงต้นไว้ไม่มากนักด้วยขาดทั้งแหล่งข้อมูลและความเข้าใจในเรื่องนี้ ตอนนี้จึงมีเพียง 13 ต้นเท่านั้น ระหว่างช่วงพักเบรกสั้นๆ ผู้เข้าอบรมต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสวนของตัวเอง มีศัพท์เฉพาะที่พวกเขาใช้ในการพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทุเรียน ซึ่งทำให้ผมนั่งฟังไปแบบงงๆ อยู่บ้าง ประหนึ่งเหมือนตอนที่เราอธิบายเรื่องศัพท์เทคนิคด้านคอมพิวเตอร์หรือการทำงานของแอปพลิเคชันให้คนทั่วไปฟังแล้วเขาไม่เข้าใจ อีกกลุ่มหนึ่งพูดขึ้นมาเสียงดังพอให้ได้ยินว่า คนที่จะปลูกทุเรียนต้องมี “เงิน เวลา แหล่ง และความรู้” ผมได้ยินแล้วก็อดคิดตามไม่ได้ว่าคำพูดนี้ถูกต้องทุกอย่าง เงินต้องเอาไว้ซื้อยา ปุ๋ย และติดตั้งระบบน้ำ เวลาไว้ดูแลปรับปรุงสวน แถมต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา ถ้าใครคิดจะปลูกจริงๆ ต้องมีความตั้งใจและเอาใจใส่ให้มาก เพราะการปลูกต้นอย่างเดียวไม่ทำให้สวนสำเร็จ ยังต้องแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย เมื่อกลับมาสำรวจสวนทุเรียนของตัวเอง ผมยังข้องใจกับปัญหาว่าทำไมต้นทุเรียนของผมดูไม่งาม ยอดใหม่แตกออกมากลับไม่สม่ำเสมอกัน และบางส่วนแห้งเฉายิ่งกว่าเดิม ผมจึงตัดสินใจปรึกษาผู้รู้ […]
ปลูกถั่วฝักยาวให้ได้ผลดี
การปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์ให้ผลผลิตที่ดีและเหมาะสมต้องเริ่มจากการเตรียมการอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ไปจนถึงการดูแลรักษาแปลงปลูก ดังนี้ 1. การเตรียมเมล็ดพันธุ์ สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ ควรใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 3-4 กิโลกรัม เลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี ไม่มีความเสียหายหรือแตกหัก นำไปคลุกเคล้าด้วยสารป้องกันแมลง เพื่อป้องกันความเสียหายในช่วงเริ่มต้นของการปลูก 2. การเตรียมหลุมปลูก จัดระยะห่างระหว่างแถว 0.8-1 เมตร และระหว่างหลุม 0.5 เมตร (หรือปรับตามความเหมาะสม) หลุมควรลึกประมาณ 5-6 นิ้ว โรยใบคูนแห้งหรือใบหางนกยูงที่ก้นหลุม ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรที่เหมาะสม เช่น 15-15-15 หรือ 12-24-12 ในปริมาณ 10-15 กรัมต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดด้วยดินบางๆ 3. การหยอดเมล็ด ใส่เมล็ดในหลุมละ 3-4 เม็ด ปิดกลบด้วยดินลึกประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นรดน้ำทันที ช่วง 1-7 วันแรก ควรรดน้ำวันละครั้ง และปรับตามสภาพอากาศและสภาพดิน 4. การดูแลต้นกล้า หลังจากหว่านเมล็ดไปประมาณ 7 […]
การปลูกมะละกอฮอลแลนด์
ธีปลูกมะละกอจากเมล็ดให้ได้ผลผลิตที่ดีและต้นแข็งแรง พร้อมกับการดูแลรักษาเพื่อให้ต้นมะละกอมีผลผลิตต่อเนื่องเป็นเวลานาน ขั้นตอนการปลูกมะละกอด้วยเมล็ด ข้อดีของการปลูกมะละกอจากเมล็ดคือได้ต้นที่มีรากแก้วแข็งแรง และหากนำต้นที่ได้ไปเสียบยอดกับต้นอื่นที่ปลูกด้วยเมล็ด จะช่วยเพิ่มผลผลิตและทำให้ต้นออกลูกดกยิ่งขึ้น 1. นำเมล็ดมะละกอมาแช่น้ำนาน 3 คืน โดยเปลี่ยนน้ำที่แช่บ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง 2. หลังจากแช่เสร็จ ให้นำเมล็ดมาเพาะในถุงดินที่เตรียมไว้ โดยใส่ถุงละ 3-4 เมล็ด 3. รดน้ำให้ดินชุ่ม ประมาณ 9-10 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก 4. ดูแลรดน้ำพอชุ่มวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตดี การเตรียมดินและขั้นตอนการปลูกมะละกอสายพันธุ์ฮอลแลนด์ 1. ไถพื้นที่และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 5 วัน 2. ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 30 ซม. โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นที่ 2.5 x 2.5 เมตร (1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 250 ต้น) 3. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้พืช 4. นำกล้าต้นมะละกอลงปลูกในหลุม แล้วกลบดินให้แน่น […]
วิธีเพาะ ต้นทานตะวัน
วิธีการปลูกต้นอ่อนทานตะวันเริ่มจากการเพาะเมล็ด สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยขั้นตอนดังนี้: วัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเพาะ: – ภาชนะสำหรับเพาะ เช่น ถาด ตะกร้า หรือตะแกรงพลาสติก – เมล็ดทานตะวันเปลือกสีดำล้วน โดยควรเลือกเมล็ดที่ไม่ได้ผ่านการอบหรือคั่วก่อนนำมาใช้ และควรตากแดดจัด 1 วันก่อนเริ่มเพาะ – น้ำสะอาดสำหรับใช้ฉีด โดยใส่ไว้ในฟ็อกกี้เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ขั้นตอนการเพาะเมล็ดต้นอ่อน: 1. คัดเลือกเมล็ดที่มีความสมบูรณ์และพร้อมจะงอก จากนั้นเตรียมวัสดุปลูก เช่น ดินหรือขุยมะพร้าว ใส่ลงในถาดเพาะ หรืออาจใช้กระสอบป่านแทน 2. เรียงเมล็ดให้เป็นแถวตามถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ หากใช้วัสดุปลูก เช่น ดินหรือขุยมะพร้าว ให้โรยวัสดุปลูกทับเมล็ดบางๆ อีกชั้นเพื่อช่วยเก็บความชื้น 3. ฉีดน้ำหรือพรมน้ำให้พอเหมาะจนวัสดุปลูกเปียก และวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงน้อย อุณหภูมิไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป 4. หลังจากผ่านไป 2-3 วัน จะสังเกตเห็นต้นอ่อนเริ่มงอกขึ้นจากถาดปลูก ไม่ควรปล่อยให้ต้นอ่อนยาวเกินไป โดยจะนิยมนำไปใช้งานเมื่อมีความยาวประมาณ 2-3 มม. เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มปริมาณต้นอ่อน: – สามารถซ้อนถาดเพาะหลายชั้น เพื่อลดพื้นที่และเพิ่มจำนวนต้นอ่อนที่ได้ – การใช้ถาดหรือภาชนะลักษณะเดียวกันในทุกชั้น จะช่วยให้ง่ายต่อการจัดการ การตัดและเตรียมต้นอ่อนสำหรับใช้งาน: กระบวนการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ […]
ข้าวโพดฝักอ่อน ปลูกง่าย
วิธีการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเป็นกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากข้าวโพดฝักอ่อนเป็นพืชที่ดูแลรักษาง่าย ใช้เวลาเพียงประมาณ 50 วัน ตั้งแต่เริ่มหยอดเมล็ดจนถึงเก็บเกี่ยว ก็สามารถได้ผลผลิตแล้ว เริ่มต้นด้วยการเตรียมแปลงปลูก โดยไถพื้นที่ให้เรียบร้อย จัดให้เป็นร่องที่มีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 80 เซนติเมตร กำจัดวัชพืชออกให้หมด จากนั้นตากดินให้แห้งแล้วให้น้ำจนดินชุ่มก่อนเริ่มปลูก ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น จากนั้นหย่อนเมล็ดข้าวโพดลงหลุม หลุมละ 2-3 เมล็ด เมื่อต้นเริ่มแตกยอดในช่วง 10 วันแรก ควรกำจัดวัชพืชและดูแลแปลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ 30 ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเติมเพื่อบำรุงต้น ข้าวโพดชนิดนี้ต้องการน้ำน้อย จึงไม่ต้องดูแลมากนักก็สามารถเติบโตได้รวดเร็ว หลังจากต้นข้าวโพดเริ่มออกฝัก ควรทำการชักยอดเพื่อป้องกันไม่ให้เกสรตัวผู้ผสมกับเกสรตัวเมีย ซึ่งจะเปลี่ยนผลผลิตเป็นฝักแก่เช่นเดียวกับข้าวโพดทั่วไปหรือข้าวโพดอาหารสัตว์ เมื่อชักยอดเสร็จ ทิ้งไว้อีกประมาณ 5 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได ้ ดยใช้เวลาเพาะปลูกรวมทั้งสิ้นประมาณ 50 วัน สำหรับเกษตรกร ข้าวโพดฝักอ่อนถือเป็นพืชที่มีศักยภาพในการสร้างทั้งแบบเสริมและแบบหลัก เพราะระยะปลูกไม่ยาวนาน ดูแลง่าย และราคาค่อนข้างคงที่ ช่วยเพิ่มกำไรและเสริมหลังฤดูเก็บเกี่ยวพืชหลัก เช่น ข้าว ในเรื่องของการให้น้ำ การดูแลเรื่องความชื้นในแปลงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ความชื้นที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้าวโพดฝักอ่อนเติบโตได้ดี และให้ฝักที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำจนทำให้ดินแฉะ เพราะจะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโต […]
เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติ
ถึงแม้เราจะคุ้นเคยกับพริกจนเหมือนเป็นพืชพื้นเมืองของเรา แต่การวิจัยพฤกษศาสตร์ระบุว่าพริกมีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางและใต้ จากที่นั่น นักสำรวจได้นำพริกไปปลูกในยุโรป และจากยุโรปก็แพร่ไปทั่วโลก หลักฐานทางโบราณคดีชี้ให้เห็นว่าชาวอินเดียนในเม็กซิโกรู้จักบริโภคพริกมานานถึง 9,000 ปี จากการพบซากเมล็ดพริกในอุจจาระแข็งที่เมือง Huaca Prieta การศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาปลูกและบริโภคพริกด้วย นอกจากนี้ ยังพบซากพริกอายุราว 2,000 ปีในเทวสถานของเปรู และลวดลายปักบนเสื้อผ้าของชนอินเดียนในเปรูเมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีรูปต้นพริก ในปี 2036 นักประวัติศาสตร์ Peter Martyr รายงานว่าพริกแดงที่ Columbus นำมาจากอเมริกามีรสเผ็ด ในปีต่อมา แพทย์ที่ร่วมเดินทางครั้งที่สองกับ Columbus ระบุว่าชาวอินเดียนนิยมใช้พริกในการปรุงอาหาร และเมื่อกองทัพสเปนบุกอาณาจักร Aztec นายพล Cortez เล่าว่ากษัตริย์ Aztec ชื่นชอบเครื่องเทศที่มีพริกผสม หลังจากพรวนดินเสร็จ ให้ปล่อยดินไว้กลางแดดประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก่อนเริ่มลงมือปลูกเมล็ดพริกที่เก็บไว้เป็นพันธุ์ โดยใช้ไม้ขีดเส้นตรงร่องดินให้ลึกประมาณความกว้างของเล็บมือ จากนั้นโรยเมล็ดพริกให้ห่างกันเล็กน้อยราวหนึ่งข้อนิ้วมือ แล้วกลบดินบางๆ ไม่ต้องหนามาก เพียงไม่กี่วันพริกก็จะแทงยอดขึ้นมา ให้ปล่อยไว้หลายวันเพื่อสังเกต หากต้นใดดูโตไม่ทันต้นอื่น ก็ให้เด็ดทิ้งเหลือเพียงต้นที่แข็งแรงและมีใบ […]
การปลูกแก้วมังกร
เทคนิคการกระตุ้นให้แก้วมังกรออกผลนอกฤดูนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ต้นแก้วมังกรจัดเป็นพืชในตระกูลตะบองเพชรที่ชื่นชอบแดดจัด มักให้ผลผลิตช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว วันที่สั้นลงและแดดลดเหลือไม่ถึง 6 ชั่วโมง กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้การผลิตผลช่วงนี้เป็นเรื่องท้าทาย สำหรับวิธีปลูกแก้วมังกรนอกฤดูที่นิยมใช้ในเชิงพาณิชย์ มีอยู่ 2 วิธีหลัก ดังนี้ 1. ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นให้ต้นแก้วมังกรออกดอก โดยการแต้มฮอร์โมนตามหนามของต้นเพื่อเร่งการออกดอก ฮอร์โมนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่เป็นประเภทไซโตไคนิน ซึ่งมีวางจำหน่ายทั่วไป ขั้นตอนคือ กรีดแผลบริเวณที่ต้องการกระตุ้น จากนั้นใช้พู่กันแต้มฮอร์โมนบริเวณบาดแผล แล้วรอให้เกิดตาดอก แนะนำให้กรีดแผลในบริเวณที่ต่ำกว่ายอดของกิ่งแก้วมังกรเล็กน้อย 2. การเปิดไฟช่วยในช่วงกลางคืน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนชั่วโมงแสงในหน้าหนาว โดยเปิดไฟประมาณ 6 ชั่วโมงต่อคืน เมื่อกลางวันสั้นลง แสงไฟจะเสริมให้ต้นแก้วมังกรได้รับแสงเพียงพอและเพิ่มความอบอุ่น ทำให้สามารถกระตุ้นการเกิดผลผลิตได้ดี โดยควรมุ่งเปิดไฟบนต้นที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงเท่านั้น การเพิ่มปริมาณแสงด้วยไฟหลอกสามารถทำได้ทุกช่วง ไม่จำกัดเฉพาะฤดูหนาว แต่ไม่ควรเปิดไฟหลอกทั้งปี เพราะอาจส่งผลเสีย เช่น เพิ่มค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และทำให้ต้นแก้วมังกรอ่อนแอจากการเร่งผลิตผลมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อรุ่นถัดไป ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ ความหวาน หรือคุณภาพน้ำหนักของผลผลิต นอกจากวิธีดังกล่าว การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมและการดูแลต้นให้แข็งแรง ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การปลูกแก้วมังกรนอกฤดูประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ การกระตุ้นให้แก้วมังกรออกผลนอกฤดูไม่ยากเกินไป เนื่องจากแก้วมังกรเป็นพืชในตระกูลตะบองเพชรที่ชอบแสงแดดจัด โดยปกติจะให้ผลผลิตตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูหนาวที่มีแสงแดดน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้การผลิตผลเป็นเรื่องท้าทาย […]
ปลูกขมิ้นชัน พืชตระกูลข่า
ผักสวนครัวที่สามารถปลูกได้ง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดรองรับ เพราะมีความต้องการสูงตลอดปี ทำให้เป็นแหล่งรายหลักระดับแสนคือ ขมิ้นชัน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่โรงงานยาสมุนไพรและอุตสาหกรรมอาหารต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง ขมิ้นชันอยู่ในตระกูลเดียวกับข่า เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุนาน ลักษณะคล้ายหัวเหง้าใต้ดิน มีเปลือกสีเหลืองอ่อนและเนื้อในสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีใบสีเขียวอ่อนและดอกหลายสี เช่น ขาว เหลือง แดง และเขียว การปลูกขมิ้นชันมีโอกาสสร้างหลักแสน หากเลือกพันธุ์ที่นิยม เช่น พันธุ์ตรัง 1 และพันธุ์ตรัง 84-2 ควรเริ่มปลูกต้นฤดูฝนปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม เพื่อประหยัดค่าใช้น้ำ เนื่องจากดินไม่แข็งเหมาะสำหรับการงอก แต่ควรระวังน้ำท่วมขัง ด้วยการปลูกแบบยกร่อง และเลือกดินที่ระบายน้ำได้ดี การปรับแก้ดินให้เหมาะกับการปลูกพืชผักด้วยปุ๋ยหมักอินทรีย์คุณภาพจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยและค่าใช้จ่าย เมื่อขมิ้นเติบโตดี หลังจากปลูกไปประมาณ 8-9 เดือน จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในฤดูหนาวช่วงธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่หัวขมิ้นแห้งและสีสวย ตรงกับความต้องการของตลาด ปลูกขมิ้นชันโดยใช้หัวแม่ขมิ้นที่มีรูปร่างคล้ายรูปไข่ เลือกขนาดประมาณ 15 ถึง 50 กรัมต่อหัว หัวแม่ชนิดนี้สามารถให้ผลผลิตประมาณ 3,300 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อปลูกในระยะห่าง 75×30 เซนติเมตร หากใช้หัวแม่ขนาดเล็กลง ผลผลิตจะลดลงตามสัดส่วน สำหรับแง่งขมิ้นชัน เลือกขนาด 15 ถึง […]
การปลูกกล้วยด่างฟลอริด้า
กล้วยด่างฟลอริด้า เป็นพืชในวงศ์ MUSACEAE ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa Florida Variegated โดยมีการค้นพบครั้งแรกบนเกาะฮาวายเมื่อประมาณ 80 ปีที่แล้ว และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแถบตอนใต้ของฟลอริด้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของชื่อที่ใช้เรียกกันจนถึงปัจจุบัน ยังมีการกล่าวว่าเคยมีการนำกล้วยชนิดนี้ไปจัดแสดงในงาน World Fair Expo ที่ฟิลาเดลเฟีย เมื่อโตเต็มที่ลำต้นจะมีสีเขียวอมชมพู ใบมีขนาดใหญ่ โคนก้านสีชมพูอ่อน ปลีกล้วยมีสีแดงคล้ำและมีนวล ปลีมีลักษณะค่อนข้างเรียว โดยหนึ่งเครือจะมี 4-5 หวี แต่ละหวีประกอบด้วย 10-16 ผลซึ่งมีลักษณะโค้งงอและปลายเรียว ผิวของผลกล้วยมีสีด่างทั้งขาวและเขียวหรืออาจอมชมพู รสชาติคล้ายกล้วยไข่ แต่มีรสอมเปรี้ยว ไม่มีเมล็ด ผลของกล้วยด่างนั้นสามารถรับประทานได้ แต่ควรทานเมื่อสุกแล้ว และนิยมปลูกสำหรับประดับ สาเหตุของการเกิดกล้วยด่างมาจากอะไร กล้วยเป็นพืชล้มลุกที่สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการชำหน่อหรือเพาะเมล็ด ลักษณะสีด่างของใบ ลำต้น และผลกล้วยมักเกิดจากการกลายพันธุ์โดยธรรมชาติ หากต้องการขยายพันธุ์เช่นนี้ต้องนำหน่อไปเพาะให้เจริญต่อไป เนื่องจากผลที่ผ่านการผสมหน่อมักไม่มีเมล็ด การเพาะเมล็ดจึงทำได้ยากและไม่ให้ผลที่หน้าตาสวยเหมือนต้นแม่ สีด่างเกิดจากกลไกของยีนด้อยที่แฝงอยู่ในพันธุกรรม ซึ่งสีด่างเหลืองและขาวจากลักษณะเผือกทำให้ใบมีริ้วลายต่างกัน แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ สำหรับกล้วยด่างฟลอริด้า ต้นนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เนื่องจากมีลำต้นและใบที่คล้ายกับกล้วยทั่วไป แต่ลวดลายด่างของมันเป็นสิ่งที่แตกต่าง โดยแต่ละต้นจะมีความหลากหลายไม่ซ้ำกัน ลวดลายด่างสีขาวหรือเหลืองผสมสลับกับสีเขียวไปตามแนวเส้นใบ หากมองเผินๆ อาจให้ความรู้สึกคล้ายลายพรางของทหาร และช่วยให้มันกลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง […]
สรรพคุณมะนาวโห่ ควรปลูกติดบ้าน
มะม่วงหาวมะนาวโห่ ถือเป็นผลไม้สมุนไพรที่มีรสชาติและประโยชน์หลากหลาย ชื่อของมันนั้นเพี้ยนมาจาก “มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่” หรือบางที่เรียกสั้นๆ ว่า มะนาวไม่รู้โห่ ในแต่ละภูมิภาคก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ในภาคกลางเรียก ต้นหนามแดง หรือมะนาวไม่รู้โห่ ในภาคใต้เรียกมะนาวโห่ ส่วนในเชียงใหม่เรียก หนามขี้แฮด ต้นไม้ชนิดนี้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carissa carandas L. และอยู่ในวงศ์ Apocynaceae ผลของมันมีลักษณะเป็นผลเล็ก สีแดงสด รูปทรงคล้ายมะเขือเทศราชินี ผลสุกจะมีรสหวานนุ่มละมุนลิ้น ต่างจากผลดิบที่มีรสเปรี้ยวจัดจนเข็ดฟัน ตัวผลไม้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดผลจะมีน้ำยางเหนียวและรสฝาดติดคอเล็กน้อย ความพิเศษของชื่อ “มะม่วงหาว” และ “มะนาวโห่” ผลสุกของมะม่วงหาวว่ากันว่าสามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น เพราะเมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกอยากนอนหรือเกิดอาการหาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “มะม่วงหาว” ส่วนมะนาวโห่นั้น เมื่อผลแก่จัดและมีรสเปรี้ยวจัดจ้าน เชื่อว่าช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่า เสริมพลังได้คล้ายกับกาแฟ ทำให้ผู้ที่รับประทานรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นทันที อย่างไรก็ดี แม้ประโยชน์จะมีมากมาย แต่เนื่องจากรสชาติไม่ค่อยถูกปากผู้คน และต้นยังมีหนาม จึงทำให้หลายบ้านไม่นิยมปลูก บางคนที่ไม่รู้จักถึงกับโค่นต้นทิ้งไป ปัจจุบันผลไม้ชนิดนี้จึงเริ่มหายาก ยังคงพบได้จากผู้ที่รู้คุณค่าและตั้งใจปลูกไว้หน้าบ้าน โดยเฉพาะในหมู่คนโบราณซึ่งเชื่อว่าผลไม้ชนิดนี้เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ใช้เป็นยาสมุนไพรในการรักษารคต่างๆ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี […]